วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

การเพาะถั่วงอก.ไว้ทานกันเองในครัวเรือน.!!

"เพาะถั่วงอกด้วยระบบน้ำอัตโนมัติ"


            สำหรับ คนเมืองที่ไม่ค่อยมีพื้นที่..
หรือมีพื้นที่เเต่ไม่ค่อยมีเเดด การเพาะถั่วงอกก็นับเป็นทางออกหนึ่งที่จะมีส่วนช่วยทำให้พึ่งตนเองด้านอาหาร ได้บ้าง แถมได้ฝึกไว้ ก็ยังเป็นวิชาผลิตอาหารยามยาก อย่างเช่นในช่วงวิกฤตน้ำท่วมที่ผ่านมาได้อย่างดีอีกด้วย
            อันที่จริงการเพาะถั่วงอก สามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน บางคนอาจจะใช้กระถางดินเผา ใช้ขวดหรือแก้วกาแฟ ใช้เข่ง หรือใช้ถังก็ได้เหมือนกัน แล้วแต่ว่าใครจะสามารถหาอุปกรณ์อะไรได้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาหนึ่งที่มักจะตามมาสำหรับคนที่อยากเพาะถั่วงอกกินเองก็คือ การไม่มีเวลารดน้ำ เนื่องจากถั่วงอกต้องการน้ำในการเจริญเติบโตค่อนข้างสม่ำเสมอ เรียกว่าถ้าเอาตามทฤษฎีก็ต้องรดกันทุกๆ 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว
          แต่ปัญหาย่อมมีทางออก หลังจากมีคนพยายามคิดค้นนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องการรดน้ำซึ่งจะว่าไปปัจจุบันก็มีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน และหนึ่งในรูปแบบที่น่าสนใจ และไม่ต้องลงทุนมากนักก็คือการทำระบบน้ำหมุนเวียนโดยใช้ปั้มไดโวตู้ปลา และมีสปริงเกอร์ติดตรงฝาถังด้านบน
          อุปกรณ์หลักๆก็มีถัง 1 ใบ เจาะรูด้านล่างเพื่อระบายน้ำ
          กะละมังรองน้ำด้านล่าง
          เก้าอี้นั่งสำหรับหนุนถัง
          ตะแกรงสำหรับรองก้นถังด้านใน หรืออาจใช้ฝาชีกับข้าวขนาดเล็กก็ได้
          ปั้มไดโวตู้ปลา และสปริงเกอร์
         ลุงชวน ชูจันทร์ ประธานสมาคมตลาดน้ำคลองลัดมะยม เล่าให้ฟังว่าได้วิธีนี้มาจากที่ขอนแก่น หลักการทำงานก็ง่ายๆ คือแช่ถั่วเขียว 1 คืน และใส่ลงไป ถังนี้ใส่ได้ประมาณ 1 กิโลกรัม ใส่น้ำลงในกะละมังด้านล่าง จากนั้นก็เสียบปลั๊กให้ปั้มไดโวทำงาน ปั้มก็จะดูดน้ำขึ้นไปรดโดยสปริงเกอร์ที่ติดอยู่ที่ฝาถังด้านบน โดยน้ำก็จะหมุนเวียนรดถั่วงอกอยู่อย่างนี้ วันแรกอาจต้องเปลี่ยนน้ำหน่อย แต่วันต่อมาก็ไม่ต้องเปลี่ยนแล้ว เพียง 3 วันก็ได้กิน

             ภาพที่ 1 ชุดเพาะถั่วงอกระบบน้ำอัตโนมัติ                       ภาพที่ 2 ไดโว่ตู้ปลา

 
               ภาพที่ 3 สปริงเกอร์รดน้ำ                                           ภาพที่ 4 สายยางต่อด้านบนฝา

          ภาพที่ 5 ด้านในใส่ตะเเกรงก่อนใส่ถั่ว                        ภาพที่ 6 ด้านล่างรองด้วยเก้าอี้ เเละกะละมังใส่น้ำ
       
 
ภาพที่ 7-8 เสียบปลั๊ก รดน้ำติดต่อกัน 3 วัน ก็ได้ถั่วงอกปลอดสารพิษไว้รับประทาน

     ใครสนใจลองนำไปทำกันดูนะคะ หากใครอยากจะประหยัดไฟ ก็ลองใช้ควบคู่กับพลังงานแสงอาทิตย์ดูก็ได้ค่ะ


**มาเพาะถั่วงอกกินกันเองดีกว่า.!!

                ผักชนิดหนึ่งที่ขายดี เป็นที่ต้องการของตลาดมากโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจก็คือ ถั่วงอก ด้วยความที่เป็นพืชที่ราคาไม่สูงมากนัก แต่อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมาย
                อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีสรรพคุณอันเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมาก แต่การไปซื้อถั่วงอกตามตลาดมากินก็มีความเสี่ยงสูงที่จะได้สารเคมีนานาชนิดเป็นของแถมมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นสารเร่งการงอกของถั่ว สารที่ทำให้ถั่วงอกอวบอ้วน กรอบ สารฟอกขาว หรือโซเดียมไฮโดรซัลไฟล์ ที่ทำให้ถั่วงอกมีสีขาวดูสะอาดถูกตาถูกใจ อีกทั้งยังอาจมีสารคงความสด หรือฟอร์มาลินด้วย เพราะหากปล่อยตามธรรมชาติแล้ว จะพบว่าถั่วงอกจะมีการเปลี่ยนสีค่อนข้างเร็ว
                เพื่อความปลอดภัย จึงอยากจะเชิญชวนให้ลองหัดเพาะถั่วงอกกินกันเองดู อดใจรอเพียง 2-3 วันก็ได้กินแล้ว แถมอุปกรณ์และวิธีการก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร บางทีอาจจะเป็นเมนูเจที่ทั้งอิ่มท้อง อิ่มบุญ และอิ่มใจมากที่สุดเมนูหนึ่งเลยก็ได้นะคะ หากเริ่มสนใจแล้ว เราลองมาดูวิธีการทำกันเลยดีกว่าค่ะ
                ก่อนจะไปถึงอุปกรณ์และขั้นตอนการเพาะ มีหลักการพื้นฐานของการเพาะถั่วงอกที่ต้องเข้าใจ 6 ประการด้วยกัน เรียกว่าเมื่อทราบหลักพื้นฐาน 6 ข้อนี้แล้ว จะนำไปประยุกต์ใช้อย่างไรก็สุดแท้แต่แต่ละคนจะสร้างสรรค์กันได้เลยทีเดียว เจ้าหลักที่ว่านั้นมีดังนี้
1.    เมล็ดถั่วโดยทั่วไปจะนิยมใช้ถั่วเขียว จะเลือกใช้แบบผิวมันที่เปลือกสีเขียว หรือแบบผิวดำก็ได้แต่ควรเลือกเมล็ดใหม่ สะอาด เพราะจะงอกดีกว่า สิ่งสำคัญคือต้องนำเมล็ดไปแช่ในน้ำอุ่นก่อนนานประมาณ 6-8 ชั่วโมง เพื่อฆ่าเชื้อโรค และช่วยกระตุ้นให้ถั่วงอกได้ดีขึ้น
2.    ภาชนะ ควรเป็นภาชนะที่มีสีทึบ หรือมีฝาปิด และควรมีรูระบายน้ำทั้งด้านล่าง และด้านข้างที่สำคัญต้องเป็นภาชนะที่สะอาด
3.    น้ำ น้ำที่ใช้รดจะต้องเป็นน้ำสะอาด และต้องได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอและเพียงพอ เพื่อให้เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นการช่วยระบายความร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างการงอกด้วย หากรดน้ำมากไปจะทำให้ถั่วเน่า แต่หากรดน้ำน้อยไปถั่วจะรากยาวแตกฝอย
4.   วัสดุเพาะหากเป็นไปได้ก็อาจใช้วัสดุเพาะ อย่างฟองน้ำ กระสอบ เพื่อช่วยเก็บความชื้น
5.  ภูมิอากาศ ความเพาะในที่แห้ง ระบายอากาศดี ถ้าในฤดูฝน ความชื้นในอากาศสูง
6.  แสงสว่าง แสงสว่างจะทำให้ถั่วมีสีเขียว ลำต้นผอมยาว ดังนั้นภาชนะควรทึบแสง หรือควรตั้งภาชนะไว้ในที่มืด
คราวนี้มาฝึกทำจริงกัน โดยจะขอแนะนำวิธีเพาะให้พอเห็นภาพสัก 2 วิธี  คือถั่วงอกแบบมีราก กับถั่วงอกแบบตัดราก ส่วนภาชนะเพาะจะเลือกใช้เป็นอะไรก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนแต่ละบ้านจะเลือกสรรกันนะคะ ทางที่ดีก็อยากแนะนำให้ใช้ของที่มีอยู่แล้วเป็นพื้นฐานค่ะ

เพาะถั่วงอกในขวดกาแฟ
อุปกรณ์ที่ใช้คือ
1. ขวดกาแฟจะชนิดใสหรือชนิดสีชาก็ได้
2. ผ้าไนลอนหรือผ้าขาวบาง กว้าง 4 นิ้ว ยาว 5 นิ้ว
3. ถั่วเขียว 1 กำมือ

ขั้นตอนการทำ
1. ล้างถั่วเขียวด้วยน้ำสะอาด แช่ในน้ำอุ่น และแช่น้ำนั้นทิ้งต่อไปอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
2.  เทถั่วเขียวใส่ขวดกาแฟ ใช้ผ้าไนลอนหรือผ้าขาวบางปิดปากขวด ใช้หนังยางรัดให้แน่น เปิดน้ำใส่ขวดให้ท่วมเมล็ดถั่ว แล้วเทน้ำทิ้ง
3. วางขวดในแนวนอน เก็บไว้ในที่มืด หรือใส่ไว้ในถุงกระดาษทึบ
4. เปิดน้ำใส่ขวด และเทน้ำทิ้งเหมือนเดิมอีกทุกๆ 3-4 ชั่วโมง แล้วเก็บไว้ในที่มืดตามเดิม
5. อดใจรอประมาณ 3 วัน ก็สามารถนำถั่วงอกไปกินได้



เพาะถั่วงอกในถังพลาสติกแบบตัดราก
อุปกรณ์
1.  ถั่วพลาสติกสีดำ เจาะรูที่ก้นถังหลายๆรู เพื่อระบายน้ำ และเจาะรูที่ด้านข้าง เป็นระยะๆ เพื่อระบายอากาศ         
2.  กระสอบป่านตัดเป็นวงกลมขนาดเท่าปากถัง 4 ชิ้น
3.  ตะแกรงไนล่อนตาถี่รูขนาดเล็กกว่าเมล็ดถั่วเขียว ตัดเป็นวงกลมขนาดเท่าปากถัง 3 แผ่น
4.  ถั่วเขียว ½ กิโลกรัม ต่อการเพาะ 1 ถัง
วิธีทำ
1.  แช่เมล็ดถั่วเขียวในน้ำอุ่น และแช่ทิ้งไว้ 6-8 ชั่วโมง คัดเมล็ดที่ลอยน้ำทิ้งไป
2. นำกระสอบวางลงไปในถัง และวางตะแกรงไนล่อนทับ
3. โรยเมล็ดถั่วลงไปบนตะแกรงไนล่อน เกลี่ยให้กระจายทั่วแผ่น ให้เมล็ดถั่วซ้อนกันประมาณ 3-4 เมล็ด อย่าให้แน่นมากจนเกินไปกว่านี้
4. นำผ้ากระสอบมาวางทับเมล็ดถั่วเขียวชั้นที่ 1 แล้วนำตะแกรงไนล่อนวางทับผ้ากระสอบ โรยถั่วลงไป ทำให้ครบ 3 ชั้น แล้วปิดด้านบนด้วยผ้ากระสอบอีกคร้ง
5. รดน้ำให้ชุ่มทุก 3 ชั่วโมง โดยรดน้ำจนน้ำไหลออกมาที่บริเวณก้นถัง เพื่อเป็นการช่วยระบายความร้อน นำไปไว้ในที่ร่ม
6.  อดใจรอประมาณ 3 วัน ก็สามารถหยิบถั่วงอกแต่ละชั้นขึ้นมา ปาดที่โคนต้นถั่วงอกซึ่งอยู่ติดกับตะแกรงไนล่อน ก็จะได้ถั่วงอกไร้รากไปกินแล้วค่ะ ขอบอกว่าใช้ถั่วแค่ ½ กิโลกรัม แต่จะได้ถั่วงอกถึง 2-3 กิโลกรัมเลยทีเดียว

ถ้าอยากให้ถั่วงอกอวบอ้วนหน่อย ก็ให้หาถุงพลาสติกใส่น้ำ หรือหินกรวดไปวางทับไว้ด้านบนถั่วงอกในถังเพาะ ก็จะช่วยทำให้ถั่วงอกไม่สูงผอม แต่ดูอวบอ้วนน่ากินได้ค่ะ

เพาะงอกง่ายๆ ได้กินไวทันใจคนเมือง
            
 จะว่าไปสำหรับคนในเมืองที่เป็นมือใหม่หัดปลูก ยังแอบใจร้อน อยากได้หยอดเมล็ดแล้วได้กินไวๆ แบบที่ไม่ต้องดูแลรักษามากมายนัก ก็แนะนำว่าให้เริ่มต้นจากการลองเพาะเมล็ดงอกกินกันดูก่อน โดยเจ้าเมล็ดเพาะงอกที่ว่านี้ก็มีหลากหลายให้เลือกสรร ตั้งแต่ถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วลันเตาหรือโต้วเหมี่ยว และเมล็ดทานตะวัน เป็นต้น  
             วิธีทำก็ไม่ยุ่งยากอะไรมากนัก  คราวนี้จะขอแนะนำ 2 เมล็ด 2 รูปแบบการเพาะให้ลองนำไปทดลองทำกันดู
วิธีเพาะเมล็ดถั่วลันเตา หรือโต้วเหมี่ยว 
1.   ล้างเมล็ดถั่วลันเตาให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน
2.   นำเมล็ดที่แช่น้ำแล้ว วางบนทิชชูที่ซ้อนกันประมาณ 3 ชั้นในภาชนะที่เจาะรูด้านล่าง
3.   รดน้ำเช้า – เย็น
ประมาณ 10 วันก็สามารถตัดกินได้แล้ว และที่พิเศษสำหรับโต้วเหมี่ยวคือ เมื่อตัดไปแล้ว ก็ให้รดน้ำต่อไปเรื่อยๆ โต้ว เหมี่ยวก็จะยังเติบโตขึ้นมาให้เราได้ตัดกินกันอีก 2-3 รอบ
ขอบอกว่าโต้วเหมี่ยวนี้อุดมไปด้วยวิตามินบีและซี แถมยังธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส และสารเลซิตินที่ช่วยการทำงานของระบบประสาทและสอง ช่วยบำรุงสายตา ตับ หัวใจ และช่วยเรื่องระบบขับถ่ายอย่างดีเนื่องจากมีเส้นใยมาก ที่สำคัญรสชาติหวาน กรอบ อร่อยทีเดียว


วิธีเพาะเมล็ดงอกทานตะวัน
1. เตรียมวัสดุเพาะ ได้แก่ขุยมะพร้าวร่อน 4 ส่วน ขี้เถ้าแกลบร่อน 1 ส่วน หรือจะใช้ขุยมะพร้าวร่อน กับดินร่อน 1 ต่อ 1 ก็ได้ นำมาผสมให้เข้ากัน
2.  แช่เมล็ดทานตะวันในน้ำอุ่นทิ้งไว้ 1 คืน หรืออย่างน้อย 8 ชั่วโมง
3. นำวัสดุปลูกใส่ภาชนะ  เช่นตะกร้าขนมจีน หรือตะกร้าที่มีตาถี่ หากไม่มีก็สามารถใช้ภาชนะปลูกอะไรก็ได้ แต่ขอให้มีรูระบายน้ำ โดยแนะนำให้ใส่วัสดุเพาะประมาณ ¾ ส่วนของภาชนะ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
4.  โรยเมล็ดทานตะวันที่แช่น้ำแล้ว เกลี่ยให้ทั่วแล้วโรยขุยมะพร้าวที่เหลือกลบด้านหน้าเล็กน้อย รดน้ำให้ชุ่มอีกครั้ง
นำไปวางไว้ในที่ร่ม รดน้ำเช้า-เย็น อดใจรอประมาณ 4-5 วันก็สามารถตัดมากินได้ แต่เมล็ดทานตะวันจะงอกได้เพียงครั้งเดียว ดังนั้นถ้าติดใจก็ต้องเตรียมเพาะกันใหม่อีกรอบนะคะ

 

ขอฝากไว้อีกอย่างหนึ่งก็คือ ใครที่อยากจะลองกินเมล็ดทานตะวันเพาะงอก เวลาไปหาซื้อเมล็ดพันธุ์ก็ขอให้พิถีพิถันสักหน่อย คือให้เลือกเมล็ดทานตะวันที่ไม่มีการเคลือบหรือคลุกยากันแมลงมา วิธีดูก็สังเกตสี โดยปกติเมล็ดจะเป็นสีดำ แต่ถ้าคลุกยาเราก็มักจะเห็นเป็นสีออกขาวๆ หากนำมาเพาะกินก็อาจเป็นอันตรายได้นะคะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
ส่วนเรื่องเมนูอาหาร สุดเเท้เเต่ใครจะสร้างสรรค์เลยค่ะ ต้นอ่อนเมล็ดงอกเหล่านี้สามารถกินได้ทั้งเเบบสด คือกินเเนมกับน้ำพริก กินกับน้ำสลัด หรือจะนำไปลวก ไปต้มจืด ไปผัก ไปเเกงก็ได้ทั้งนั้นค่ะ

ขอบคุณรูปจาก fb Nam-ing Thippayawat
ขอบคุณข้อมูลจาก Organic Way และกลุ่มเมื่อคนเมืองอยากปลูกผัก
ขอบคุณข้อมูลจากคู่มือพึ่งตนเอง และหนังสือสารพันวิธีเพาะถั่วงอก
ขอบคุณข้อมูลจาก คุณนคร ลิมปคุปตถาวร
เครดิต: http://www.thaicityfarm.com
Email:taajook@gmail.com

1 ความคิดเห็น:

  1. ถั่วพม่าคัดเกรดพิเศษ เพาะถั่วงอก
    ให้คำปรึกษา คำแนะนำ..การเพาะถั่วงอก...ใครสนใจ ติดต่อมาได้เลยครับ....
    สร้างรายได้ดี ง่ายรวดเร็ว...เงินเข้าบ้านทุกๆวัน..
    ขายเมล็ดเพาะถั่วงอกเกรด A คัดพิเศษ
    นำไปเพาะไม่ผิดหวังแน่นอน @@@@มี ปุ๋ย ถั่วงอก ด้วยครับ
    **มีชุดเพาะสำหรับคนเริ่มต้นเพาะมีอุปกรณ์ให้ครับ พร้อมเอาไปเพาะได้เรา คิดแต่ค่าอุปกรณ์ **
    ราคา 600 บาท(ไม่รวมค่าจัดส่ง)
    รายการ
    1.ถังเพาะ 1 ถัง
    2.ตะแกรงพลาสติก2แผ่น
    3.แป้งแช่
    4.ปุ๋ย ถั่วงอก 2 ขวด
    5.สลิงตวง + ช้อนตวง
    6.เมล็ดถั่ว 5 กก.
    7.วิธีเพาะ
    สนใจติดต่อ 085-2169936 ID line : 9087447

    ตอบลบ